สวัสดีค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นการอัพบล็อกครั้งสุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ (โค้งงาม ๆ ) ครั้งนี้ก็จะมาสรุปผลว่า ทำบล็อกนี้แล้วได้ตรงตามจุดประสงค์ที่วางไว้ครั้งแรกหรือเปล่า หลังจากเรียนวิชา Applied Japanese Linguisitic เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ได้อะไรจากวิชานี้บ้าง
ก่อนอื่นมาดูส่วนของจุดประสงค์กันก่อนดีกว่า
วัตถุประสงค์
|
การประเมินผล
|
บรรลุวัตถุประสงค์ (%)
|
เพื่อพัฒนาภาษาญี่ปุ่นของตนเอง
โดยย้อนกลับมาดูตนเองหลังจากทำ task ในห้องเรียน
|
Task ไหนที่ย้อนกลับไปดู
ก็จะกลับไปดูดี ๆ มีการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พอทำแล้วก็เข้ามาใจมากขึ้น
บางอย่างที่ผิดก็เป็นくせ ที่เราไม่รู้ตัว แต่พอรู้ว่าเราใช้ผิด
เราก็จำไปใช้ใหม่ มีการระวังในการใช้ภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น แต่บาง task ก็ยังไม่ได้กลับไปย้อนดูดี ๆ
ยังไม่ได้อัพขึ้นบล็อก เช่น 作文 เรื่องผี
|
78%
|
เพี่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพูนความรู้นอกเหนือจากในห้องเรียน
|
ในบล็อกนี้
เรารู้สึกว่าเราได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเยอะมาก บางอย่างที่เราผิดแล้วโดนแก้มา
เราจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา “ตกลงแล้วมันใช้ยังไง แล้วมีตัวอย่างการใช้อะไรบ้าง” การจำตัวอย่างไปใช้เป็นวิธีที่ดีมาก ๆ
เพราะจะทำให้เรารู้ว่า “จริง ๆ มันใช้กับตัวอย่างประมาณนี้นะ” หรือถ้ามีประโยคที่อยากเขียนคล้าย ๆ ตัวอย่างนี้ก็จะได้ใช้ตามนั้นไปเลย
เรื่องไวยากรณ์เสริมที่เรียนในห้องเรียน
เราก็มีการค้นคว้ามากขึ้น เพราะอยากรู้ว่า นอกจากหลักการที่เรียนในห้องเรียนแล้ว
มันยังมีอะไรอีกไหม อยากเห็นตัวอย่างเพิ่มเติม และบางเรื่องก็ไม่ได้เรียนลงลึกขนาดนั้น
ก็เลยรู้สึกอยากรู้ลึกกว่านี้ อย่างเช่น วิธีการใช้ は VS. が , เรื่อง のだ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม
บางอย่างที่เราได้ศึกษาหาข้อมูลไว้ คิดว่าเข้าใจดีแล้ว เราก็ยังมีใช้ผิดบ้าง
อย่างเรื่อง はが ตรงจุดนี้ก็ยังรู้สึกว่า
เรายังลืมข้อมูลที่เราค้นหา และเรายังไม่ค่อยระมัดระวังในการใช้เท่าไหร่ ยังต้องปรับปรุงตรงส่วนนี้
|
93%
|
เพื่อทบทวนความรู้เพื่อให้พร้อมที่จะใช้ภาษาในครั้งต่อไป
|
เราได้ทบทวนทั้ง
task และเนื้อหาในห้องเรียน
เราได้เขียนบล็อกที่เป็น task ทั้งหมด 3 task (task บอกทาง เขียนบล็อก 2 ครั้ง) และ Review เนื้อหาในห้องเรียน 5 อัน ในส่วนของ task เรารู้สึกว่าอันไหนที่เรากลับมาย้อนดู
เอามาเขียนบล็อก เราก็จะลงลึกมาก ๆ แต่ task ไหนที่ไม่ได้ลงบล็อกก็มองผ่าน ๆ คิดว่าต้องกลับมาทบทวนให้มากกว่านี้
ส่วน Review
เนื้อหาในห้องเรียน
เรารู้สึกว่าเราทำเยอะมาก มีการค้นคว้าข้อมูลด้วย
ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ได้ทบทวนมาก ได้ทบทวนว่าจริง ๆ แล้วมันวิธีใช้อย่างที่เราเข้าใจหรือเปล่า
และได้ทบทวนความรู้ใหม่ที่เข้ามา เพราะถ้านั่งอ่านเฉย ๆ ก็คงอ่านได้แค่รอบเดียว
แต่ถ้าเขียนบล็อก ก็จะได้อ่านหลายครั้งและจำได้
|
80%
|
เพื่อให้เพื่อน
ๆ ได้ความรู้เพิ่มเติม
|
ถ้าดูจำนวนคอมเมนต์
เราว่าเพื่อน ๆ อาจจะมาดูแค่บางคอนเท็นต์ เพราะบางคอนเท็นต์ เพื่อนมาคอมเม้นต์กันเยอะมาก
ส่วนบางคอนเท็นต์น้อย แต่ตามที่ดูเนื้อหาคอมเมนต์ เพื่อน ๆ ก็บอกว่าสรุปได้ละเอียดมาก
เข้าใจมากขึ้น ไม่รู้มาก่อนเลยว่าไวยากรณ์นี้มีวิธีใช้แบบนี้ด้วย
|
70%
(ตามจำนวนและเนื้อหาที่คอมเมนต์)
|
ดูจากตารางข้างบนแล้ว
บล็อกครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ก็มีส่วนที่มันพัฒนาไปกว่านี้ได้
เรายังต้องกลับไปทบทวน task และความรู้ในห้องเรียนอยู่ บางเรื่องทบทวนแล้วก็มีลืมบ้าง
เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องทวน ถ้าไม่ทวน สักวันก็ต้องลืม
เป็นไปตามธรรมชาติของสมองคน
เรียนวิชา Applied
Japanese Linguistic ได้อะไรบ้าง
· ได้ทบทวนความสามารถของตนเอง
แน่นอนว่าวิชานี้เน้นการ
output มาก่อน
input มันทำให้เราได้ใช้ความสามารถของตัวเองล้วน
ๆ ในการทำ task พอได้ลองทำ
เราก็รู้สึกว่าเรามี gap เราคิดว่าเราทำได้มากกว่านี้
แต่จริงๆ แล้วเราทำได้แค่นี้ พอเรารู้สึกแบบนั้นเราก็อยากรู้ว่า
แล้วคำตอบที่เป็นอุดมคติเป็นอย่างไร อยากรู้ว่า ถ้าเป็นคนญี่ปุ่น
เขาจะตอบว่าอย่างไร การทำ task ในห้องทำให้เรารู้ความสามารถของตัวเอง
และทำให้เรากระหายที่จะมีความรู้มากขึ้น
· ทบทวนสิ่งที่ผิดพลาด
และได้ความรู้ใหม่
พอได้ลองทำ task และได้
feedback แล้ว
เราก็รู้ว่า จริงๆ แล้วเราผิดอะไรบ้าง ทำให้เรารู้ว่า จริงๆ แล้วมันใช้แบบนี้นะ
ไม่ใช่แบบนี้ และการดูตัวอย่างคำตอบจากคนญี่ปุ่น มันทำให้เราได้เห็นคำตอบที่เป็นอุดมคติ
เขาใช้คำศัพท์ ไวยากรณ์อะไรบ้าง เขามีจังหวะการเล่าเรื่องอย่างไร
และการที่อาจารย์ให้คำตอบของคนญี่ปุ่นหลายคนมา มันทำให้เราเชื่อว่า
ตัวอย่างต่อไปนี้เชื่อได้ได้ระดับหนึ่ง เพราะมีคนญี่ปุ่นเขียนแบบนี้จริง เรารู้สึกว่า
มีนคงไม่มีวิชาไหนในประเทศไทยละที่อาจารย์เกณฑ์ให้คนญี่ปุ่นหลายคนมาลองเขียนเป็นตัวอย่างให้กับนักเรียนต่างชาติ
ขอบคุณมากๆนะคะอาจารย์
นอกจากนี้ การทำบล็อกทำให้เราได้ย้ำกับตัวเองหลายครั้งว่า
เราผิดอะไร ถ้าไม่ทำบล็อก เราก็คงมองรอบเดียวผ่าน และการทำบล็อกในครั้งนี้
มันทำให้เราได้ลองศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น แทนที่ความรู้จะจบแค่ในห้องเรียน แต่พอมาทำบล็อก
เรารู้สึกว่า เห้ย มันน่าจะเขียนได้เยอะอีกสิ มันน่าจะมีวิธีการใช้ไวยากณ์นี้อีกสิ
เรื่องที่เรางงมาทั้งชีวิตไม่น่าจะมีวิธีการใช้แค่นี้ 5555 ขอบคุณค่ะที่อาจารย์ให้ทำบล็อก
· ได้มิตรภาพและความทรงจำที่ดี
เรารู้สึกว่า คลาสนี้ อาจารย์ให้บรรยากาศเป็นกันเองมาก
ๆ เราเป็นพี่ปี 5 ที่กลับมาเรียนเทอมปลายยังรู้สึกว่า
เราคุยกับน้องๆ ได้นะ เราคุยกับอาจารย์ได้นะ มีเล่นเกมก่อนเริ่มเรียนทุกคาบ
และแต่ละครั้งก็จะขำชื่อคนที่ล็อกอินเข้ามาทำควิส อาจารย์ก็น่ารักมากๆ
สอนเข้าใจมากๆ ใจดี เนื้อหาแต่ละครั้งก็มีสรุปทุกครั้ง ทำให้เรารู้สึกว่า เออ
วันนี้เรียนเรื่องนี้นะ จำได้ๆ task แต่ละอันที่อาจารย์ให้มาก็มีเหตุผลมาอาจารย์ให้มาทำไม
การบ้านมันดูชิ้นใหญ่แต่ว่าอาจารย์ก็ไม่ได้ให้เยอะ
และคนที่ได้จากการทำสิ่งนี้ก็เราเอง คาบสุดท้ายที่มีสอบและพรีเซ็นต์ เรารู้สึกว่าอาจารย์ออกแต่สิ่งสำคัญทั้งนั้น
เรารู้สึกไม่ suffer
กับข้อสอบที่อาจารย์ออกเลย
และท้ายคาบมีพรีเซ็น ปกติเราจะตื่นเต้นมากๆ ไม่ชอบการพรีเซ็นต์ พูดหน้าห้องก็ชอบพูดติดขัด
แต่ครั้งนี้ เราแทบไม่ได้เตรียมพูดอะไรมาเลย แทบไม่ได้ซ้อมหน้ากระจก พอตอนพูดจริง
เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ตื่นเต้นเท่าที่ผ่านมา ไม่รู้สึกเครียดตอนพูดเลย
มันอาจจะเป็นเพราะเรารู้สึกดีกับคลาสนี้ และมีอาจารย์และเพื่อนๆ น้องๆ
ที่น่ารักให้กำลังใจอยู่
ขอบคุณสำหรับวิชานี้นะคะ จะจดจำไว้เป็นความทรงจำดี ๆตลอดไปค่ะ