Tuesday, May 14, 2019

Task: พีดแบค 空想作文 อันงง ๆ ของเรา




สวัสดีค่า ขอภัยที่ห่างหายไปนาน พอดีติดสอบและติดทำรายงาน เมื่อวานเพิ่งส่งรายงานตัวสุดท้ายไป โล่งเลยยยย จากนี้ไปจะอัพเรื่อย ๆ ค่า (แหงอยู่แล้ว เพราะเดดไลน์บล็อกคือวันมะรืนนี้ ถถถถถ)
วันนี้เราก็จะมารีวิว 空想作文 ของเราว่ามีจุดไหนที่ต้องแก้บ้าง แก้อย่างไร ก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้ความผิดพลาดของเราและไม่ผิดเหมือนเราเนอะ 
งั้นมาดู 空想作文 ของเรากัน
(บล็อกครั้งนี้ยาวหน่อยนะคะ ;__;)

*สีชมพูคือ ผิดด้านไวยากรณ์ผิด
*สีฟ้าคือ ผิดด้านความหมาย (ใช้คำผิด หรือขาดบางคำที่ทำให้ความหมายไม่สมบูรณ์)
*สีเขียวคือ สะกดผิด

…………………………………………………………………………………………………
 6時のエレベターの女

 僕は未来が見える。
どうして僕は未来が見えるのか、自分にも答えられない。ただこれは生まれつきの才能だとわかる。今まで生きてきた24歳の会社員の僕は二つの未来が見える。一つ目は、物事の未来だ。例えば、この新商品を販売したら、たくさん売れそうか、お客さんの反応はどうなるかということ等がわかる。
もう一つの未来は、人の未来だ。初めて会った人に対しても、その人の未来が頭に浮かんでくる。つまり、僕は人に会ったたび、人の未来が見える。
この才能のおかげで、大体の未来が見通せ、何をしても完璧で優秀だ。2年前に入社したが、企業の売り上げを3倍伸ばせられ、早く昇進させもらった。僕の能力を認めてくれる人はいるが、僕に仕事と役職を奪われたりすると僕を恨んでいる人いる。僕はそんなつもりではなかったが、人にどう思われるか気にしないから、何もしなかった。
 でも、最近、僕は誰かにずっと見られているような感じがした。
ある日、午後6時に僕は仕事を終え、帰ろうとした。しかし、会社を出たときに、忘れ物があると気づいた。オフィスは20階にあるから、エレベターに乗ることにした。一人でエレベター乗っている僕嫌な予感がした。エレベターが徐々に上がり、5階に止まった。ドアが開いたとたん、僕の前に現れた人は20代の女の人だった。女の人が僕と顔を合わせず入ってきて、24階のボタンを押し、僕の前に立っていた。ずっと誰も言わなかった。でも、僕は床に落ちているハンカチに気づいた。最初にエレベターに入ったときになかったはずだから、きっと彼女のハンカチに違いない。
「すみません、これが落ちていますけど」僕は声をかけた。彼女はそれを聞くと、後ろに振り向き、やっと顔を合わせた。彼女は美人だけど、今まで会った人と違ったことがある。
僕が彼女の未来が見えないのだ。
僕は彼女の顔をわざと見つめたが、未来がどうしても出てこなかった。今回初めて人の未来が見えなかった。
「あ、すみません」彼女は僕の手の上にあるハンカチを取り、喜んでくれた。彼女の笑顔はとても素敵だが、ハンカチを渡したときに、彼女の手がとても冷たい感じがした。
エレベター20階に止まった。僕が下りろうとした。                                                                                                                                             
「また明日」彼女が言った。僕は後ろに振り向くと、彼女の笑顔が見えた。
 僕は返事をせず、ただ少し笑顔を返した。
 どうして彼女は明日会えると言い切れるだろう
 それに、今24階で全部のオフィスが修復されており、誰もいないから、どうしてこのような時に24階に行くだろうと疑問を抱きながら、オフィスに戻っていった。

 ……………

 翌日、僕は帰るときにまた忘れ物があった6時にエレベターに乗り、20階のオフィスに戻ろうとした。しかし、エレベターは昨日と同じようにまた5階に止まった。ドアが開けたとたん、エレベターの前にあの女の人が立っていた。僕は彼女顔を合わせた。
まだ彼女の未来が見えない。
「こんばんは」女の人が先に挨拶をし、エレベターに入ってきて、24階のボタンを押した。誰も言わなかった。黙っていた間に、僕はまた落ちているものが見えた。でも、今回は財布だ。
「すみません、これ、落ちていますけど
「あ、すみません。」財布を渡したときに、また彼女の手の冷たさを感じた。
「いつも落とし物取ってくれて、ありがとうございます。その代わりに見せたいものがあります。良かったら、一緒に来てくれませんか。」彼女が笑顔で誘ってくれた。彼女の笑顔は誰のより素敵だ。
エレベター20階に止まり、ドアが開いた。どうしたらいいか考えていたが、結局、僕が閉まるボタンを押した。
エレベターは徐々に上がった。あと10秒くらい24階に着くけど、最近起こったことを思い出した
彼女は24階に行く。24階誰もいない。どうしてこんな時間に行く?どうして彼女の手がいつも冷たい?どうして彼女の未来が見えない?どうして「また明日」って言いきれる?どうして最近見られているような感じする?
よく考えてみると、身体が震えた。
エレベターが24階に止まり、ドアが開いた。真っ暗な部屋だった。彼女は僕の先に歩いていった。
「ご、ごめんなさい。用事がありますので、先にか、帰ります。感謝の気持ちは僕がもういただきました。では。」僕がすぐ閉まりのボタンを押した。
ドアが5センチしか開いていない瞬間に、彼女は「チッ」と声を出し、先まで素敵な笑顔は突然怒った表情に変化し、赤い目で僕を見ていた。
僕は怖くたまらなく、直接家に帰った。

……………

翌日会社に普通に戻った。当会社のある会社員が4日間前に亡くなったニュースがあった。今朝、みんなはこの話をしていた。
「鈴木さんを知らない?24階のオフィスにいた女の人。まだ若いだけど、もう亡くなったなんて信じられないね。なんか誰かに仕事と職位を奪われて、体調が悪くなって病院したらしい。可哀そうね。」
僕は同僚に見せてもらったあの会社員の写真を見た。
翌日、僕は仕事を辞めた。

…………………………………………………………………………………………………


จากที่สังเกตดู เรามีจุดผิดคือ

·     ไวยากรณ์ 13 จุด (คำช่วย 7 จุด, แพทเทิร์นไวยากรณ์ 4 จุด, คำเชื่อม 2 จุด, การผันกริยา 1 จุด,   )

·     ความหมาย 8 จุด

·     สะกดคำผิด 1 คำ (エレベター  エレベー ター) 

การแก้ไข

ด้านไวยากรณ์
-          เป็นจุดที่เราผิดเยอะที่สุด โดยเฉพาะคำช่วยที่เป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ (ตอนทำเสร็จ เช็คผ่านๆ รีบส่ง ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้5555) แพทเทิร์นไวยากรณ์รองลงมา ต่อมาคือคำเชื่อม และสุดท้ายคือการผันกริยา

    1.   คำช่วย
1.1)  僕の能力を認めてくれる人はいるが、僕に仕事と役職を奪われたりすると僕を恨んでいる人いる。

ตอนแรกเรานึกถึงเรื่องการเปรียบเทียบ 2 ประโยค เลยใช้ ทั้งประโยคหน้าและประโยคหลัง แต่พอมาคิดดูอีกที เออ อย่างที่คุณยามาดะแก้ให้ ตรง ข้างหลังก็ควรเป็น แหละ เพราะเราต้องการจะบอกว่า มีคนที่ยอมรับในความสามารถของผมก็จริง แต่ก็มีคนที่โกรธแค้นเพราะคิดว่าผมไปแย่งงานเขาเหมือนกัน


1.2)(前略)一人でエレベーターに乗っている僕嫌な予感がした。

บล็อกครั้งก่อนก็เคยเขียนเรื่อง は が แต่ก็ดันผิดอีก 5555  ตรงนี้ต้องใช้ เพราะว่า 「僕」คนนี้ไม่ได้ถูกพูดถึงครั้งแรก มีการแนะนำให้รู้จักกับ 「僕」คนนี้ไว้ในย่อหน้าแรก ๆ แล้ว และคนอ่านก็รู้จักเขาแล้วด้วย จึงต้องใช้

1.3)  僕は彼女顔を合わせた

ที่จริงตอนนั้นน่าจะพิมพ์ด้วยความเบลอ เลยเผลอพิมพ์เป็น แทน และด้วย sense ภาษาไทยคือ มองหน้าเธอหน้าเธอกลายเป็นหนึ่งคำ เลยเผลอเขียนเป็น 彼女の顔 แทน แต่ถ้าต้องอธิบายว่าทำไมถึงต้องเป็น ไม่ใช่ นั้น อาจจะเป็นเพราะ คนญี่ปุ่นมองว่า 顔を合わせる เป็น*สำนวนที่สมบูรณ์ในตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องใส่ว่า เป็นหน้าของใคร และที่ใช้ เพราะว่า 顔を合わせた หมายความว่าทั้งสองคนต้องหันหน้ามามองกัน ไม่ใช่แค่ใครคนหนึ่งมองหน้าอีกฝ่าย

*ในภาษาอังกฤษก็มีสำนวน เช่น she lost face (เธอเสียหน้า) ไม่ต้องมีคำว่า her
ยกเว้นคำว่า she shook her head มีคำว่า her ได้ (ขอบคุณวิชา Translation: TH-EN I)


1.4) いつも落とし物取ってくれて、ありがとうございます。

อันนี้ก็เกิดจาดความเบลอเช่นกัน (อะไรจะเบลอขนาดนั้น) อย่างที่ทุกคนรู้อยู่แล้วเนอะว่าชี้กรรมรอง ชี้กรรมตรง ในกรณีนี้ ของที่ตกเป็นกรรมตรงก็ต้องใช้


1.5)エレベーターは徐々に上がった。あと10秒くらい24階に着くけど、(後略)

ข้อนี้ต้องมีคำว่า เพราะ บอกจำนวนของ คน เวลา ราคา ที่ใช้ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จ (จากหนังสือ คำช่วย ช่วยด้วย![ฉบับปรับปรุง]”)
เช่นこの建物は203ヶ月できました。
อาคารหลังนี้สร้างเสร็จในเวลา 3 เดือน โดยใช้คน 20 คนครับ
このコンピューターは2万バーツ買いました。
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ซื้อมาในราคา 2 หมื่นบาทค่ะ

           1.6) 彼女は24階に行く。24階誰もいない。どうしてこんな時間に行く?

ตอนเขียนประโยคนี้เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มีใครอยู่ที่ไหน เราก็ใช้คำเดียวจบ แต่เราลืมไปว่า เรายก 24เป็น topic อยู่ว่าชั้นที่ 24 เนี่ย ไม่มีคนเลยเลยควรเติม ไปด้วย จากนี้ไปเวลาเขียนก็ต้องคิดมากขึ้น 555

1.7)  よく考えてみると、身体が震えた。

อันนี้ผิดเหมือนกับข้อที่ 1.2.2 เลย เพราะว่า 「僕」เคยพูดถึงไปแล้ว จึงใช้ ไม่ใช้


       2.   แพทเทิร์นไวยากรณ์

        2.1) つまり、僕は人に会ったたび会うたび、人の未来が見える

ตอนแรกที่เราใช้กริยารูปอดีต เพราะเรานึกไปว่าเราเล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้วไวยากรณ์     たび ต้องใช้ V.dict รูปปัจจุบัน



จริงๆ มันก็ make sense นะ เพราะความหมายของงไวยากรณ์นี้คือ พอทำทุกครั้งก็จะเสมอไม่ว่าจะทำครั้งไหน ผลลัพธ์ก็ออกมาแบบนั้นเสมอ เลยใช้กริยารูปอดีตไม่ได้

2.2) 黙っていた黙っている間に、僕はまた落ちているものが見えた。

สาเหตุที่เราเผลอใช้กริยารูปอดีตเหมือนกับข้อที่แล้วเลย จริงๆ แล้วไวยากรณ์นี้มีวิธีใช้แบบนี้
    
ถ้าข้างหน้าเป็นกริยา ก็ใช้กริยาได้แค่ V.ている หรือ V.จะใช้กริยารูปอดีตไม่ได้

  2.3) ドアが開けた開いたとたん、エレベーターの前にあの女の人が立っていた。

         อันนี้เป็นความสะเพร่าของเรา พิมพ์ด้วยความเร็วสูง 555 ลืมไปว่า ประโยคนี้ต้องการอกรรมกริยา เพราะประธานคือประตู ประตูเปิดเองโดยธรรมชาติ

  2.4) あと10秒くらい24階に着くけど、最近起こったことを思い出した思い出していた

      อาจารย์บอกว่าข้อนี้ผิดด้าน aspect ต้องแก้เป็น 思い出していたแต่เราก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ ถถถถ
  

    3.    คำเชื่อม

    3.1) 誰もいないからのに、どうしてこのような時に24階に行くだろうと疑問を抱きながら、オフィスに戻っていった。
まだ若いだけどのに、もう亡くなったなんて信じられないね。

ทั้งสองประโยคนี้ ยามาดะซังแก้ให้เป็น のに เราก็เลยสงสัยว่าทำไม のに ถึงดีกว่า เลยไปลองหาวิธีการใช้มา (เราอ่านมาจากชีทวิชา Translation TH-JP) ปรากฎว่า のに、なのに、それなのに มีวิธีการใช้คือ

·     ใช้ตอนที่สิ่งที่เกิดขึ้นต่างจากสิ่งที่เราคาดคิดไว้ และเราก็รู้สึกตกใจ ไม่พอใจ ฯลฯ กับสิ่งที่นั้น
精一杯勉強した。それなのに、試験に合格できなかった。
·     ประโยคข้างหลังต้องเป็น 現実 ไม่ได้แสดงคำสั่ง ความตั้งใจ หรือการประเมินตัดสินของผู้พูด
×精一杯勉強した。それなのに、合格できないだろう。(การประเมินตัดสิน)
×精一杯勉強した。それなのに、もうやめよう。ความตั้งใจ



     4.  การผันคำกริยา                                                                                                                                           
4.1) エレベーターが20階に止まった。僕が下りろう下りようとした。
อันนี้ก็เป็นくせของเราเอง แหะๆ ต้องจำไว้ว่า 下りるเป็นกริยากลุ่มสอง ตัด แล้วเติม よう ได้เลย

................(จบด้านไวยากรณ์)......................



ด้านความหมาย

          1.  僕は彼女の顔をわざとじっと見つめたが、未来がどうしても出てこなかった。

ยามาดะซังแก้ให้เป็น じっと เราก็ไปดูคำว่า じっとในพจนานุกรม 新明解 มา じっとแปลว่า สภาพที่เราอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับไปไหน เพราะเรากำลังมีสมาธิกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเรากำลังรอดูให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง และพบว่า じっと見つめる ก็เป็นคำที่มาควบคู่กัน

2.    どうして彼女は明日会えると言い切れるだろう
それに、今24階で全部のオフィスが修復されており、誰もいないのに、どうしてこのような時に24階に行くだろうと疑問を抱きながら、オフィスに戻っていった。

ข้อนี้ ถ้าไม่ใส่คำว่า มันก็จะขาดความหมายแสดงความสงสัยนิดหน่อย ถ้าใส่แล้วก็จะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

3.    翌日、僕は帰るときにまた忘れ物があったをした
ข้อนี้ ที่คุณยามาดะซังแก้เป็น 忘れ物をしたแทนน่าจะเป็นเพราะต้องการเน้น action ว่าผู้ชายดันลืมของเอง มากกว่าจะบอกว่า มีของลืมไว้ที่

4. 「こんばんは」女の人が先に挨拶をし、エレベターに入ってきて、24階のボタンを押した。誰も何も言わなかった。

จริง ๆ แล้วเราต้องการจะอธิบายว่า หลังจากที่ผู้หญิงเข้ามาในลิฟต์ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย แต่คิดว่าที่ยามาดะซังแก้เป็น 何もให้ อาจจะเป็นเพราะ ยังเป็นการเล่าจากมุมมองตัวผู้ชายว่า เออ ผู้หญิงเข้ามาก็ไม่พูดอะไร และประโยคข้างหน้า ประธานก็เป็นผู้หญิงด้วย เลยใช้ 何もน่าจะดีกว่า

5.   いつも落とし物取ってくれて拾ってくれて、ありがとうございます。

ในกรณีนี้ควรใช้คำว่า 拾う เพราะว่า 拾う คือการเก็บของที่ตกจากพื้นขึ้นมา ความหมายของคำนี้จะเข้ากับประโยคนี้มากกว่า

6.    彼女の笑顔は誰のものより素敵だ。

ข้อนี้ เราคิดว่าใส่แค่ ก็น่าจะแทน 誰の笑顔 ได้หมดข้อนี้ แต่ยามาดะซังก็เพิ่มคำว่า ものมาให้ แสดงว่าคงแทนไม่หมด หรือถ้าใส่แล้วความหมายจะสมบูรณ์ขึ้น

7.   閉まり閉まるのボタン

ข้อนี้ เราก็ไม่รู้มาก่อนจริงๆว่า คนญี่ปุ่นเรียกปุ่มปิดลิฟต์ว่ายังไง ตอนนั้นคิดว่า 閉まるのボタンคงแปลกๆเพราะ 閉まるเป็นคำกริยา แต่ยามาดะซังก็แก้เป็นคำนี้มาให้ เออ คนญี่ปุ่นคงเรียกแบบนี้แหละมั้ง เพราะในลิฟต์ญี่ปุ่นก็เขียนคำว่า 閉まる เลย

 ................(จบด้านความหมาย)......................


ด้านการสะกดคำ
1.      エレベター 
เราสะกดผิดแค่คำเดียว แต่เป็นคำที่ปรากฎใน 作文 ทั้งหมด 13ครั้ง 5555 โผล่เต็ม作文เลยจ้า คงจำไปอีกนานเลยว่า エレベーター มีขีดเสียงยาว 2 ที่

หลังจากที่เราวิเคราะห์แล้ว เราก็จะมาลองแก้ 作文ของเราอีกครั้ง

................(จบด้านการสะกดคำ)......................



空想作文 ที่แก้ไขแล้ว


…………………………………………………………………………………………………

 6時のエレベターエレベーターの女

 僕は未来が見える。
どうして僕は未来が見えるのか、自分にも答えられない。ただこれは生まれつきの才能だとわかる。今まで生きてきた24歳の会社員の僕は二つの未来が見える。一つ目は、物事の未来だ。例えば、この新商品を販売したら、たくさん売れそうか、お客さんの反応はどうなるかということ等がわかる。
もう一つの未来は、人の未来だ。初めて会った人に対しても、その人の未来が頭に浮かんでくる。つまり、僕は人に会ったたび会うたび、人の未来が見える。
この才能のおかげで、大体の未来が見通せ、何をしても完璧で優秀だ。2年前に入社したが、企業の売り上げを3倍伸ばせられ、早く昇進させもらった。僕の能力を認めてくれる人はいるが、僕に仕事と役職を奪われたりすると僕を恨んでいる人いる。僕はそんなつもりではなかったが、人にどう思われるか気にしないから、何もしなかった。
 でも、最近、僕は誰かにずっと見られているような感じがした。
ある日、午後6時に僕は仕事を終え、帰ろうとした。しかし、会社を出たときに、忘れ物があると気づいた。オフィスは20階にあるから、エレベターエレベーターに乗ることにした。一人でエレベターエレベーターに乗っている僕嫌な予感がした。エレベターエレベーターが徐々に上がり、5階に止まった。ドアが開いたとたん、僕の前に現れた人は20代の女の人だった。女の人が僕と顔を合わせず入ってきて、24階のボタンを押し、僕の前に立っていた。ずっと誰も言わなかった。でも、僕は床に落ちているハンカチに気づいた。最初にエレベターエレベーターに入ったときになかったはずだから、きっと彼女のハンカチに違いない。
「すみません、これが落ちていますけど」僕は声をかけた。彼女はそれを聞くと、後ろに振り向き、やっと顔を合わせた。彼女は美人だけど、今まで会った人と違ったことがある。
僕が彼女の未来が見えないのだ。
僕は彼女の顔をわざとじっと見つめたが、未来がどうしても出てこなかった。今回初めて人の未来が見えなかった。
「あ、すみません」彼女は僕の手の上にあるハンカチを取り、喜んでくれた。彼女の笑顔はとても素敵だが、ハンカチを渡したときに、彼女の手がとても冷たい感じがした。
エレベターエレベーター20階に止まった。僕が下りろう下りようとした。                                                                                                                                             
「また明日」彼女が言った。僕は後ろに振り向くと、彼女の笑顔が見えた。
 僕は返事をせず、ただ少し笑顔を返した。
 どうして彼女は明日会えると言い切れるだろう
 それに、今24階で全部のオフィスが修復されており、誰もいないからのに、どうしてこのような時に24階に行くだろうと疑問を抱きながら、オフィスに戻っていった。

 ……………

 翌日、僕は帰るときにまた忘れ物があったをした6時にエレベターエレベーターに乗り、20階のオフィスに戻ろうとした。しかし、エレベターエレベーターは昨日と同じようにまた5階に止まった。ドアが開けたドアが開いたとたん、エレベターエレベーターの前にあの女の人が立っていた。僕は彼女顔を合わせた。
まだ彼女の未来が見えない。
「こんばんは」女の人が先に挨拶をし、エレベターエレベーターに入ってきて、24階のボタンを押した。誰も何も言わなかった。黙っていた間に黙っている間に、僕はまた落ちているものが見えた。でも、今回は財布だ。
「すみません、これ、落ちていますけど
「あ、すみません。」財布を渡したときに、また彼女の手の冷たさを感じた。
「いつも落とし物取ってくれて拾ってくれて、ありがとうございます。その代わりに見せたいものがあります。良かったら、一緒に来てくれませんか。」彼女が笑顔で誘ってくれた。彼女の笑顔は誰のものより素敵だ。
エレベターエレベーター20階に止まり、ドアが開いた。どうしたらいいか考えていたが、結局、僕が閉まるボタンを押した。
エレベターエレベーターは徐々に上がった。あと10秒くらい24階に着くけど、最近起こったことを思い出した思い出していた
彼女は24階に行く。24階誰もいない。どうしてこんな時間に行く?どうして彼女の手がいつも冷たい?どうして彼女の未来が見えない?どうして「また明日」って言いきれる?どうして最近見られているような感じする?
よく考えてみると、身体が震えた。
エレベターエレベーターが24階に止まり、ドアが開いた。真っ暗な部屋だった。彼女は僕の先に歩いていった。
「ご、ごめんなさい。用事がありますので、先にか、帰ります。感謝の気持ちは僕がもういただきました。では。」僕がすぐ閉まりのボタン閉まるのボタンを押した。
ドアが5センチしか開いていない瞬間に、彼女は「チッ」と声を出し、先まで素敵な笑顔は突然怒った表情に変化し、赤い目で僕を見ていた。
僕は怖くたまらなく、直接家に帰った。

……………

翌日会社に普通に戻った。当会社のある会社員が4日間前に亡くなったニュースがあった。今朝、みんなはこの話をしていた。
「鈴木さんを知らない?24階のオフィスにいた女の人。まだ若いだけどのに、もう亡くなったなんて信じられないね。なんか誰かに仕事と職位を奪われて、体調が悪くなって病院したらしい。可哀そうね。」
僕は同僚に見せてもらったあの会社員の写真を見た。
翌日、僕は仕事を辞めた。

…………………………………………………………………………………………………



สรุปสิ่งที่เราผิดพลาด

·     ไวยากรณ์ 13 จุด -> ผิดคำช่วย แพทเทิร์นไวยากรณ์ คำเชื่อม การผันคำกริยา
·     ความหมาย 8 จุด
·     การสะกดคำ 1 จุด

จุดที่เราอ่อนน่าจะเป็น ไวยากรณ์ โดยเฉพาะเรื่องคำช่วย เพราะฉะนั้น ครั้งหน้าต้องเช็คให้มากขึ้น มีความละเอียดมากขึ้น!

ขอโทษที่เขียนยืดยาวนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ :) 






6 comments:

  1. Hallo!

    อธิบายวิธีการใช้ไวยากรณ์ได้ละเอียดและเข้าใจง่ายมาก ๆ เลยฮะ SBRS! 流石先輩!!
    อ่านแล้วรู้สึกเก็ทมาก ๆ และสามารถนำไปใช้ได้เลย แถมมีวิธีการใช้แบบครบทุกฟอร์มด้วย ทั้งคำนาม กริยา คุณศัพท์
    /ปลื้มปริ่ม

    หลายสำนวนหมูดุดก็เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ไว้มีโอกาสจะลองนำไปใช้ดูบ้างนะฮะ
    ขอบคุณมากฮะะ

    ปล. รูปประกอบน่ารักก

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากๆนะคะน้องหมูดุด ดีใจที่น้องเก็ท ^^ เอาสำนวนไปใช่ได้เลยย เต็มที่ฮับ // เห็นคำนี้ 流石先輩 ครั้งแรกก็งง มันเป็นใคร 5555 เพิ่งเห็นคันจิของ さすが ครั้งแรก

      Delete
  2. เข้าใจว่าตรง最近起こったことを思い出したที่ต้องเป็น思い出していたเพราะเป็นการบอกสภาพที่หลงเหลือหลังจากการนึกออกอ่ะ ถ้าใช้思い出したมันจะสื่อว่าตอนที่บรรยายคือวินาทีที่นึกออกอ่ะ(งงมั้ย 555)

    ReplyDelete
    Replies
    1. อ๋าาา มันคือสภาพที่หลงเหลือจากการนึกออกนี่เอง ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ 5555 (ใน 5555 มีน้ำตาซ่อนอยู่)

      Delete
  3. เขียน 内省 ของตนเองได้ละเอียดมากๆๆๆๆๆ ขอแสดงความชื่นชม

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากๆนะคะอาจารย์ ดีใจจ ชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว หนูเลยพยายามเขียนละเอียดหน่อย แหะ ๆ ^^

      Delete

Conclusion : วัดผล

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นการอัพบล็อกครั้งสุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ (โค้งงาม ๆ ) ครั้งนี้ก็จะมาสรุปผลว่า ทำบล็อกนี้แล้วได้ตรงตาม...