Sunday, April 28, 2019

Review : How to...んだ/のだ 





สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันใหม่อีกครั้งนะคะ ครั้งนี้อัพบล็อกเป็นครั้งที่ 6  แล้ว ขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตาม (และหลงเข้ามานะคะ แหะๆ) ครั้งนี้จะมาสรุปเรื่อง んだ หรือのだ ค่ะ หัวข้อนี้ อาจารย์ได้พูดในหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ แต่เร็วนี้ ๆ เราจะต้องสอนน้องเกี่ยวกับเรื่อง んだ เลยอยากกลับมาทบทวนอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ (^^) เรามาเริ่มกันเลย

วิธีการใช้
1.    ใช้อธิบายเหตุการณ์  (事情説明)
              อย่างที่เพื่อนทราบกันดีว่า んだ、のだ ใช้ตอนอธิบายเหตุการณ์ (事情説明) มาพูดถึงกรณีของคนที่ใช้ดีกว่า
คนที่ถามแล้วลงท้ายด้วย んですか/のだか/んだか ก็ถามแฝงอารมณ์ความสงสัย และต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ง่ายๆคือ อยากรู้นั่นเอง)
ส่วนคนที่ตอบที่ใช้ んです/のだ/んだก็อยากอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น (ใจมันอยากจะอธิบาย อยากให้เธอเข้าใจฉัน ได้ยินไหมมมม~) 
เพื่อความเข้าใจง่าย มาดูตัวอย่างกันค่ะ




1)A:どうして遅れたですか。
  
  B:ごめんなさい。バスが来なかったです。

ตัวอย่างนี้และรูปนี้เราอ้างอิงจากเว็บhttps://www.jpf.go.jp/j/project/japanese/teach/tsushin/grammar/201006.html ที่เนื้อหาตรงกับชีทที่อาจารย์แจกให้เลย 5555 (ถ้าใครสนใจกดเข้าไปดูในเว็บได้นะคะ อธิบายเข้าใจง่ายดีค่ะ)
คุณ A ถามคุณ B ว่า どうして遅れたですか มี んですかต่อท้าย แสดงให้เห็นว่าคุณ A อยากทราบเหตุผล ต้องการคำอธิบาย ในสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนคุณ B ก็ตอบว่า มี んですต่อท้าย แสดงให้เห็นว่าคุณ B ก็อยากจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น (โปรดเข้าใจฉัน ~)

แต่ถ้าสองคนข้างบนไม่ได้ลงท้ายด้วย んです  ล่ะ

  (2) A:どうして遅れましたか。
 
               B:バスが来なかったです。

ก็จะกลายเป็นบทสนทนาที่เหมือนคุณ A ถามโดยไม่ได้เจือปนความอยากรู้ ถามเฉยๆ (เหมือนถามลมฟ้าอากาศ) ส่วนคุณ B ก็เหมือนตอบสไตล์ บรรยายเหตุการณ์ Fact เฉยๆ จบ ไม่ได้อยากอธิบายให้เขามาเข้าใจเรา เฉยๆ ไม่ได้แคร์อะไร ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นประโยชน์ที่มีความ 客観
แต่แน่นอนว่า んだ/のだ ก็มีข้อระวังในการใช้เหมือนกัน นั่นคือ

ใช้บ่อยแล้วดูเหมือนแก้ตัว หนีความรับผิดชอบ 責任逃れの言い訳をする)

เนื่องจากประโยคที่เติม んだ แฝงความรู้สึกที่อยากจะอธิบาย โปรดเข้าใจฉันเถอะนะ พอใช้มากๆแล้วกลายเป็นว่าเราอธิบายมากเกินไป อ้างนู่นอ้างนี้ ดูเหมือนเราไม่ยอมรับผิด และจริงๆ แล้ว การอธิบายดังกล่าวก็เป็นการอธิบายที่มองผ่านตัวผู้พูด และแฝงอารมณ์ล้วนๆ เพราะฉะนั้นประโยคที่ใช้ んだ ก็มีความ 主観สูง ดูไม่น่าเชื่อถือ



2)A:どうして遅れたんですか。
             
  B:バスが来なかったんです。あのバスはいつも遅れるんです。だから、仕方がないんです。


อย่างไรก็ตาม การใช้ んだ อย่างเดียวจะทำให้ดูเหมือนแก้ตัว มันก็ยังมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ประโยคดูเหมือนแก้ตัว เช่น เสียสูงต่ำ คำพูดที่เลือกมาใช้ ถ้าไม่อยากให้ดูเหมือนแก้ตัวมากเกินไป ก็ควรจะขอโทษก่อนและค่อยอธิบายเหตุการณ์ เหมือนกับตัวอย่างที่ (1) ข้างบนนี้

2.      ใช้กับเหตุการณ์ที่มากระตุ้นความสนใจ


จากคำอธิบายข้างต้น หมายความว่า เราไปเห็น ไปได้ยินอะไรสักอย่าง  และผลจากการที่เราไปเห็นหรือได้ยินนั้น มันไปกระทบจิตใจหรือกระตุ้นความสนใจของเรา เราเกิดความรู้สึกอยากพูด มีเสียงก้องขึ้นในใจเรา ว่าเห้ย จริงเหรอ (อะไรประมาณนี้) และเราก็พูดความรู้สึกออกมา
พูดง่ายๆ คือ มีเหตุการณ์ที่กระตุ้นความสนใจของเราเกิดขึ้น เราคิด (前提) เราพูดออกมา んだ」

 (3) 雨が降っている。
(4) 雨が降っているんだ。

ตัวอย่างที่ (3) เป็นการบรรยายสถานการณ์จริง สิ่งที่เกิดขึ้น ที่ไม่ได้แทรกความคิดของผู้พูดลงไป คนพูดอาจจะมองออกไปข้างนอก และเห็นว่าฝนตก ก็เลยพูดบอกเฉยๆว่า ฝนตกนะ ไม่ได้คิดอะไร
ตัวอย่างที่(4) ผู้พูดมองออกไปหน้าต่าง และเห็นว่าฝนตก (เหตุการณ์) เหตุการณ์ที่ฝนตกนั้นไปกระตุ้นความสนใจเธอเพราะ เธอไม่คิดว่าฝนจะตก เธอไม่ได้พกร่มมา ทำยังไงดี (คิด) 雨が降っているんだ(どうしよう)(พูดออกมา)

(5) もう、レポートを書きましたか?
(6)(相手の完成したレポートを見て)
  もう、レポートを書いたんですか!?

ตัวอย่างที่ (5) เหมือนกับตัวอย่างที่ 1 คือ ถามทั่วๆไป ไม่ได้คิดอะไร คนพูดอาจจะถามเฉยๆ ถามสถานการณ์ความเป็นจริงทั่วไป เขียนเสร็จก็ดี เขียนไม่เสร็จก็ไม่ใช่ปัญหา
ตัวอย่างที่ (6) เพื่อนเขียนรายงานเสร็จแล้ว(เหตุการณ์) เราเห็นเหตุการณ์นั้นแล้วก็ ห๊ะ เขียนเสร็จแล้วเหรอ เร็วจัง เรายังไม่เริ่มเขียนสักตัว (ความคิด)  もう、レポートを書いたんですか!? (私はまだ書いていないけど

3. ใช้เน้นสิ่งที่ต้องการจะพูด
การใส่ のだ/んだ เป็นการเน้นสิ่งที่ต้องการจะพูด ต้องการจะสร้าง impact พบการใช้ในประโยคสุดท้ายบ่อย

(7) 人間は社会的存在である。つまり、人間は他人と関係を持つことなしに生きることはできないのだ

ตัวอย่างที่ (7) ประโยคแรกบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่ขอมาพูดอีกครั้งในประโยคสุดท้ายเพื่อเน้นและเพื่อความเข้าใจตรงกันคือ พูดง่ายๆก็คือ มนุษย์เนี่ยนะ ไม่สามารถดำรงชีวิตได้หากปราศจากการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
ข้อระวังคือ ใช้บ่อยแล้วอาจมีความหมายว่า

เคยบอกไปแล้ว หรือมันเป็นเรื่องที่คุณก็รู้อยู่แล้ว แต่ฉันก็จะมาเน้นย้ำอีกรอบหนึ่ง (แสดงความไม่พอใจ)

              (8)急いでいるです。だから、早くして下さい。
ตอนนี้รีบอยู่นะ (คุณก็น่าจะรู้ หรือดูออก) คุณก็ควรรีบทำอะไรเร็ว ๆ ด้วย

4.「んですが、/ のですが、ใช้เกริ่นนำ
การใช้ んですが、นั้นฟังดูสุภาพนุ่มนวลกว่าการใช้ 「ですが」 ที่แสดงเจตตามาโต้ง ๆดูโผงผาง
んですが、เหมือนคนพูดค่อย ๆ แง้มประตูความรู้สึกออกมาอย่างสุภาพ

ตัวอย่าง
(9) ちょっとお話があるですが、今よろしいでしょうか。
(10)テレべの音が大きいですが、音を小さくしていただけませんか。


สรุป 

เพื่อความเข้าใจง่าย เราก็จะขอสรุปหัวข้อสำคัญ ๆ อีกครั้ง
เห็นมีวิธีการใช้และมีข้อระวังที่หลากหลายย่างนี้ จริง ๆ แล้ววิธีการใช้ 「んだ」「のだ」 ล้วนมีพื้นฐานมาจาก


หรือพูดง่าย ๆ คือ

ใจที่อยากถาม (のか)
และ
ใจที่อยากพูด (のだ)





แหล่งอ้างอิง

5 comments:

  1. เหตุการณ์ที่มากระตุ้นความสนใจนี่ใช้แบบไม่รู้ตัวมาตลอดว่าทำไมใช้ได้จนมาอ่านที่อิงสรุป 555 ชอบที่อิงสรุปนะ สั้น กระชับ เข้าใจง่ายดี แล้วจะแวะเวียนเข้ามาอ่านใหม่นะ ^^

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากๆนะ ดีใจมากๆเลยที่มายด์เข้าใจ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าเพื่อนๆจะอ่านเข้าใจป่าว 5555 มีกำลังใจในการเขียนบล็อกมากขึ้นเลย^^ (เดี๋ยวเราแวะไปที่บล็อกมายด์ทีหลังนะ)

      Delete
  2. สรุปได้อ่านง่ายมากเลยค่ะ พี่อิงอธิบายได้ชัดเจนและเข้าใจง่ายมากเลย
    แต่เหมือนเม้นของพี่มายด์เลยค่ะ เพิ่งรู้ว่ามีเรื่องเหตุการณ์ที่มากระตุ้นความสนใจด้วย ! คืออย่างประโยคที่ยกตัวอย่างมาเราก็มีใช้ตามแบบเค้าแต่ไม่ได้ตระหนักตรงนี้เท่าไหร่ บางทีก็ใช้ไปอัตโนมัติ
    แล้วก็เรื่องข้อควรระวังการใช้ที่เหมือนเน้นย้ำว่าเรื่องนี้เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ อันนี้ก็เห็นด้วยค่ะ
    แต่จริงๆรู้สึกว่าบังคับตัวเองไม่ให้พูด んです ยากมาก เพราะบางทีชอบเผลอพูดประโยครูปกันเอง ลืมไปต้องพูดสุภาพเลยชอบเอา んです มาปิด แง้ สรุปแทนที่จะสุภาพกลายเป็นว่าไปกันใหญ่เลย 5555

    ReplyDelete
  3. สรุปได้ดีมากเลยค่ะ มีรูปประกอบน่ารักมาก ถ้าเติมเรื่อง のだ ในภาษาเขียน(ที่เราเรียนในห้อง)ด้วยจะสมบูรณ์เลยค่ะ

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณพี่อิงที่สรุปและอธิบายได้อ่านเข้าใจง่ายมากเลยครับบบ แบ่งเป็นส่วนๆ ชัดเจนดีมาก จริงๆ ผมเคยทำเรื่องนี้มาก่อนตอนทำรายงานของวิชาภาษาศาสตร์ แต่ก็รู้สึกว่าความรู้ที่ได้ตอนนั้นมันยังครึ่งๆ กลางๆ พอมาอ่านที่พี่เขียนแล้วก็ช่วยให้ผมได้ทั้งทบทวนและก็ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเยอะเลยครับ!

    ReplyDelete

Conclusion : วัดผล

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นการอัพบล็อกครั้งสุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ (โค้งงาม ๆ ) ครั้งนี้ก็จะมาสรุปผลว่า ทำบล็อกนี้แล้วได้ตรงตาม...